เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [54. กัจจายนวรรค] 6. พาหิยเถราปทาน
[192] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าพยายามว่ายน้ำข้ามทะเลใหญ่
ไปถึงท่าประเสริฐชื่อสุปปารกะ
ข้าพเจ้ามีคนรู้จักน้อย
[193] นุ่งผ้าเปลือกไม้เข้าไปยังบ้านเพื่อก้อนข้าว
ครั้งนั้น หมู่ชนพากันยินดีกล่าวว่า
‘ผู้นี้เป็นพระอรหันต์มาที่นี้แล้ว
[194] พวกเราสักการะพระอรหันต์นี้ด้วยข้าว น้ำ
ผ้า ที่นอน และเภสัชแล้ว จักถึงความสุข’
[195] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าได้ปัจจัย เป็นผู้ที่พวกเขาสักการบูชาแล้ว
จึงเกิดความดำริโดยไม่แยบคายขึ้นว่า เราเป็นพระอรหันต์
[196] ลำดับนั้น บุพเทวดารู้วารจิตของข้าพเจ้า
จึงตักเตือนว่า ‘ท่านไม่รู้ทางที่เป็นอุบาย1
จะเป็นพระอรหันต์ได้อย่างไรเล่า’
[197] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าถูกเทวดาตักเตือนแล้ว
ก็เกิดความสลดใจ จึงสอบถามเทวดานั้นว่า
‘พระอรหันต์ผู้ประเสริฐกว่านรชน
ในโลกเหล่านี้คือใคร ‘อยู่ที่ไหน’
[198] เทวดานั้นตอบว่า ‘พระชินเจ้าผู้มีพระปัญญามาก
ผู้ประเสริฐ มีปัญญาเสมอด้วยแผ่นดิน
พระองค์เป็นโอรสของเจ้าศากยะ เป็นพระอรหันต์
ไม่มีอาสวะ ทรงแสดงธรรมเพื่อบรรลุอรหัต
อยู่ในพระราชมณเฑียรของพระเจ้าโกศลในกรุงสาวัตถี’
[199] ข้าพเจ้าได้ฟังคำของเทวดานั้นแล้ว
เอิบอิ่มใจเหมือนคนกำพร้าได้ขุมทรัพย์

เชิงอรรถ :
1 รู้ทางที่เป็นอุบาย คือรู้ทางที่จะให้บรรลุถึงพระนิพพาน (ขุ.อป.อ. 2/196/291)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :264 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน [54. กัจจายนวรรค] 6. พาหิยเถราปทาน
ยิ้มแย้ม เบิกบานใจที่จะได้พบพระอรหันต์ผู้ประเสริฐ
น่าชม น่าพึงใจ ผู้มีพระญาณเป็นโคจรไม่มีที่สิ้นสุด
[200] ครั้งนั้น ข้าพเจ้าออกจากที่นั้นไปด้วยตั้งใจว่า
‘เราเมื่อชนะกิเลสได้ก็จะได้เห็นพระพักตร์
ที่ปราศจากมลทินของพระศาสดาในกาลทุกเมื่อ’
ไปถึงแคว้นที่รื่นรมย์นั้นแล้วได้ถามพวกพราหมณ์ว่า
‘พระศาสดาผู้ทำชาวโลกให้เพลิดเพลินประทับอยู่ ณ ที่ไหน’
[201] ครั้งนั้น พราหมณ์ทั้งหลายตอบว่า
‘พระศาสดาผู้ที่มนุษย์และเทวดากราบไหว้
เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังเมือง
ท่านผู้ขวนขวายจะเข้าเฝ้าพระมุนี
จงรีบกลับไปเฝ้ากราบไหว้พระองค์ผู้เป็นบุคคลผู้เลิศ’
[202] ลำดับนั้น ข้าพเจ้าได้ไปยังกรุงสาวัตถี
ที่อุดมสมบูรณ์โดยด่วน ได้เห็นพระองค์ผู้ไม่มักมาก
และไม่ติดในรสอาหาร กำลังเสด็จบิณฑบาต
[203] ทรงบาตร มีพระเนตรสำรวม
ทรงยังอมตธรรมให้โชติช่วงอยู่ในนครนี้
ประหนึ่งเป็นที่อยู่ของพระสิริ
มีพระพักตร์โชติช่วงดังรัศมีดวงอาทิตย์
[204] ครั้นพบพระองค์ ข้าพเจ้าจึงได้หมอบลงแล้ว
กราบทูลดังนี้ว่า ‘ข้าแต่พระโคดม
ขอพระองค์โปรดเป็นที่พึ่งของข้าพระองค์
ผู้วิบัติในทางที่น่ารังเกียจด้วยเถิด’
[205] พระมุนีผู้ประเสริฐได้ตรัสว่า ‘เรากำลังเที่ยวบิณฑบาต
เพื่อประโยชน์แก่การช่วยสัตว์ให้ข้ามพ้น
เวลานี้ไม่ใช่เวลาแสดงธรรมแก่ท่าน’

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :265 }